อุทยานแห่งชาติทะเลบัน, สตูล
| ตั้งอยู่หมู่ที่ 11 บ้านวังประจัน ตำบลควนสตอ อุทยานฯ มีเนื้อที่ทั้งหมด 196 ตรกม. หรือ 122,000 ไร่ โดยรวมเอาเนื้อที่ของป่าสงวนแห่งชาติกุปัง ปุโล๊ต และหัวกะหมิงเข้าด้วยกัน และยังผนวกพื้นที่ป่าควนบ่อน้ำปูยู ในท้องที่ตำบลบ้านควน ตำบลปูยู อำเภอเมือง จังหวัดสตูลอุทยานฯ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กม. |
คำว่า "ทะเลบัน" มาจากคำว่า "เลิด เรอบัน" เป็นภาษามลายูแปลว่า ทะเลยุบหรือทะเลอันเกิดจากการยุบตัวของแผ่นดิน อุทยานแห่งชาติทะเลบันเกิดจากการยุบตัวของพื้นดินระหว่างเขาจีนและเขามดแดง เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ 63,350 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง จึงอุดมไปด้วยพืชพรรณป่าไม้ที่ขึ้นอย่างหนาแน่น และรอบๆ บึงจะมีพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งชื่อต้น "บากง" ขึ้นอยู่หนาแน่นแลดูสวยงาม นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่นๆ อีก เช่น นกน้ำชนิดต่างๆ สมเสร็จที่มักลงมากินน้ำตามริมบึงเสมอๆ ที่อุทยานแห่งชาติทะเลบันยังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งเรียกว่า "หมาน้ำ" เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำรูปร่างคล้ายกบและคางคก แต่มีหางส่งเสียงร้องคล้ายลูกสุนัข จะมีชุกชุมตามริมบึงโดยเฉพาะในฤดูฝน สัตว์ชนิดนี้จะมีอยู่เฉพาะที่ทะเลบันเท่านั้น อุทยานแห่งชาติทะเลบันได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2523
สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติทะเลบัน
|
ทะเลบัน
เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่กลางหุบเขา ขนาบด้วยเทือกเขาจีนและเขาวังประ มีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ มีปลาน้ำจืดและหอยชุกชุม น้ำใสสะอาดจนสามารถมองเห็นสาหร่ายและฝูงปลาว่ายไปมา บางครั้งจะมีสมเสร็จลงมากินน้ำเป็นภาพที่น่าประทับใจ รอบบึงมีพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งขึ้นอยู่หนาแน่น ชาวบ้านเรียกว่า "ต้นบากง" ทางอุทยานฯ ได้สร้างศาลาท่าน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนด้วย
น้ำตกรานี
เป็นน้ำตกขนาดเล็ก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 200 เมตร จะมีทางเดินเท้าแยกจากทางไปบ้านพักริมบึงซึ่งเป็นบ้านพักของอุทยานฯ จนถึงตัวน้ำตก น้ำตกแห่งนี้มีน้ำน้อยแต่จะไหลอยู่ตลอดปี
ทุ่งหญ้าวังประ
เป็นทุ่งหญ้าในที่ราบอันกว้างใหญ่ระหว่างภูเขาทางทิศตะวันตกของอุทยานฯ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากเช่น สมเสร็จ กระจง เม่น ไก่ป่า เป็นต้น
การเดินทางไปทุ่งหญ้าวังประ จากที่ทำการอุทยานฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4184 (สายควนสตอ-เขตแดน) กลับออกมาทางปากทางราว 8 กม. จะเห็นป้ายบอกทางเข้าทุ่งหญ้าวังประ ทางซ้ายมือเป็นทางลูกรัง ระยะทางประมาณ 10.5 กม. การเดินทางในฤดูร้อนจะสะดวกกว่า
เขตแดนไทย-มาเลเซีย
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 2 กม. บริเวณเขตแดนมีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ตั้งอยู่ มีที่นั่งพักผ่อนใกล้เชิงเขา ธรรมชาติร่มรื่น หากเดินทางต่อไปอีก ประมาณ 23 กม. ก็จะถึงปาดังเบซาร์ แหล่งชุมนุมสินค้าต่างประเทศราคาถูก หรือหากต้องการไปยังเมืองกางะซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐเปอร์ลิส ก็สามารถไปได้เพียงเดินทางไปอีกประมาณ 30 กม.เท่านั้น ด่านนี้เปิดตั้งแต่ 06.00-19.00 น. และจะมีตลาดนัดทุกวันอาทิตย์ในช่วงเช้า ส่วนมากจะเป็นสิ่งของอุปโภคบริโภคทั่วไป
|
|
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น